รวม 26 ผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมด

ผู้จัดการทีมแมนยู

สำหรับบทความนี้จะมารวมผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรลีกเดิม (ดิวิชั่น) (1888 – 1992) และพรีเมียร์ลีก (1992 – ปัจจุบัน) ว่าจะมีใครบ้าง เว็บแทงบอลออนไลน์ LOTTOSOD888 มีครบ จบในเว็บเดียวจะมาดูผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน

ผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน

ผู้จัดการทีมแมนยู
  1. อัลเฟร็ด ฮูเบิร์ต อัลบัต (1892-1900)

เขาเป็นเลขาธิการคนแรกของสโมสร นิวตัน ฮีธ มีบทบาทอย่างมากในการพาทีมลอยตัวผ่านวิกฤติทางการเงินในช่วงก่อตั้งสโมสรช่วงแรก ๆ ในปี 1892 และพาทีมย้ายสนามเหย้าจาก นอร์ท โร้ด ไปยัง แบงค์ โร้ด กราวด์

  1. เจม เวสต์ (1900-1903)

เขาเป็นคนที่เข้ามาดูแลสถานะการเงินที่ใกล้จะล่มสลายของ นิวตัน ฮีธ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และได้ชื่อว่าเป็นเลขาธิการคนแรกของแมนยู

  1. เจมส์ เออร์เนสต์ มังนัลล์ (1903-1912)

เขาเริ่มต้นอาชีพการคุมทีมกับ เบิร์นลี่ย์ ก่อนจะย้ายมาทำงานที่ยูไนเต็ดในปี 1903 นำพาทีมคว้าตำแหน่งรองแชมป์ในดิวิชั่น 2 และเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดในปี 1906 และคว้าแชมป์ฟุตบอล ดิวิชั่น 1 ในปี 1908 เขาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อจนถึงปี 1912 ก่อนจะย้ายไปคุมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้

  1. จอห์น เบนท์ลี่ย์ (1912-1914)

แมนยูอยู่ในยุคที่ก้าวสู่ขาลงอีกครั้ง เพราะในช่วงเวลา 2 ปี เขาไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก พาทีมหนีตกชั้นเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่จอห์น เบนท์ลี่ย์ จะเปลี่ยนตำแหน่งไปดูในส่วนของงานบริหารมากขึ้นในปี 1914 และอำลาทีมไปในอีก 2 ปีถัดมา

  1. แจ็ค ร็อบสัน (1914-1921)

ช่วงนี้ได้เปลี่ยนจากคำว่า “เลขาธิการ” มาเป็น “ผู้จัดการทีม” เป็นครั้งแรกแจ็ค ร็อบสัน ย้ายจาก ไบรท์ตันฯ มาทำงานที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และก็ยังไม่ได้ลุ้นแชมป์หรือประสบความสำเร็จ จนในที่สุดเขาก็ล้มป่วยลงจากผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมด และอำลาตำแหน่งไปในเดือนตุลาคม 1921 

ผู้จัดการทีมแมนยู
  1. จอห์น อัลเบิร์ต แชปแมน (1921-1927)

เขาเข้ามาปีแรกก็พายูไนเต็ดจบอันดับบ๊วยของดิวิชั่น 1 และตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 2 ทันที และเขาใช้เวลา 3 ปี พาทีมเลื่อนชั้นกลับสู่ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ แต่ในวันที่ 7 ตุลาคม 1926 เขาถูกเอฟเอลงโทษแบน จากข้อหาประพฤติมิชอบในการดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีม และหลังพ้นโทษแบนเขาได้ลาจาก

  1. ลัล ฮิลดิทช์ (1926-1927)

เขาคือคนที่ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่แทน จอห์น แชปแมน ในตอนที่โดนแบน โดยดำรงตำแหน่งควบทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีม เพราะเขาเป็นนักเตะในตำแหน่งวิงแบ็คและอยู่กับยูไนเต็ดมากกว่า 1 ทศวรรษ

  1. เฮอร์เบิร์ต แบมเล็ตต์ (1927-1931)

และยุคนี้ยังเป็นยุคที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผชิญอยู่ใสความมืด โดยเฮอร์เบิร์ต แบมเล็ตต์ เข้ามาคุมทีมหลังผ่านงานกับ โอลด์แฮม แอธเลติก, วีแกน โบโรห์ และมิดเดิ้ลสโบรช์ เขาเข้ามาทำงานกับในเดือนเมษายน 1927 พาทีมแพ้ 12 นัดติดจนทีมตกชั้นสู่ดิวิชั่น 2 ในฤดูกาลสุดท้าย และพาทีมชนะได้เพียง 57 เกม จาก 182 นัด

  1. วอลเตอร์ คริคเมอร์ (1931-1932 และ 1937-1945)

เขาเข้ามาทำงานเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1919 ในตำแหน่งพนักงานทั่วไป ก่อนจะไต่เต้าจนถึงขั้นมีโอกาสได้ทำงานผู้จัดการทีมในปี 1931 และส่วนรอบที่ 2 เขาได้รับตำแหน่งอีกครั้งในปี 1937 และได้รับเครดิตอย่างมากกับการทำงานร่วมกับ เจมส์ กิบสัน เจ้าของสโมสรในยุคนั้น ในการช่วยทีมไม่ให้เจอกับสภาวะล้มละลาย รวมไปถึงการพัฒนาระบบนักเตะเยาวชนของทีม

  1. สกอตต์ ดันแคน (1932–1937)

เขาใช้งบประมานของทีมไปแบบมหาศาลในการซื้อนักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม และเกือบพาทีมตกชั้นสู่ดิวิชั่น 3 ในฤดูกาล 1933 และ 2 ปีต่อมาก็พาทีมคว้าแชมป์ ดิวิชั่น 2 และเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดสำเร็จอีกครั้ง แต่ก็พาทีมตกชั้นในฤดูกาลถัดมา

ผู้จัดการทีมแมนยู
  1. เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (1945-1969 และ 1970-1971)

เขาเข้ามารับตำแหน่งที่ยาวนานกว่าผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมด และพาทีมก็เปลี่ยนสถานะจากทีมที่ขึ้นลงระหว่างดิวิชั่น 1 และ 2 เป็นประจำ กลายมาเป็นทีมหัวแถวของเกาะอังกฤษ เขาพาทีมคว้าแชมป์ในดิวิชั่น 1 ได้ถึง 5 ฤดูกาลในปี 1952, 1956, 1957, 1965 และ 1967 รวมไปถึงการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 1948 และ 1963 ด้วย

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่มิวนิค ทีมได้เสียหายอย่างหนัก สำหรับผู้รอดชีวิตมาได้ แต่ก็มีปัญหาทางด้านร่างกายและสภาวะจิตใจอย่างหนัก จนต้องพักจากการคุมทีมไปในช่วงเวลาหนึ่ง หลังผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาได้ บัสบี้สร้างทีมขึ้นมาใหม่ จนในที่สุดความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของทีม ก็เดินทางมาถึงในวันที่ 29 พฤษภาคม 1968 เมื่อแมตต์ บัสบี้ พาทัพ “ปีศาจแดง” คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นครั้งแรกของสโมสรบนเกาะอังกฤษ ก่อนจะประกาศรีไทร์ไปแบบยิ่งใหญ่ 

สำหรับช่วงที่ 2 ที่เซอร์ แมตต์ บัสบี้ กลับมาคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระยะสั้น ๆ อีกครั้งในช่วงท้ายของฤดูกาล 1970 ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งอีกครั้งหลังจบฤดูกาล 

  1. จิมมี่ เมอร์ฟี่ (1958)

เขาคือคนที่เข้ามาทำงานแทน เซอร์ แมตต์ บัสบี้ ในตอนที่เขายังคงฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งในตอนนั้น เมอร์ฟี่ทำงานเป็นผู้จัดการทีมชาติเวลส์ 

  1. วิล์ฟ แม็คกินเนสส์ (1969-1970)

เขาเข้ามาสานงานต่อจาก เซอร์ แมตต์ บัสบี้ โดยเขาถูกดันขึ้นมาจากการเป็นผู้จัดการทีมในชุดสำรอง และได้ขึ้นมาทำงานในทีมชุดใหญ่ด้วยอายุแค่ 31 ปี เท่านั้น

  1. แฟรงค์ โอฟาร์เรลล์ (1971-72)

เขาคือคนที่ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ ไว้ใจและเลือกด้วยตนเองจากผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมด ให้เข้ามาสานงานต่อจากเขาและดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะไปได้สวยหลังจากที่ โอฟาร์เรลล์ พาทีมรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของลีกเมื่อผ่านวันคริสต์มาสในปี 1971

  1. ทอมมี่ ด็อคเคอร์ตี้ (1972-77)

เขาถูกเซอร์ แมตต์ บัสบี้ ทาบทามเข้าทำงานด้วยตนเอง แต่ในฤดูกาลที่สองที่เขาทำงาน สโมสรก็ต้องมาตกชั้นกลับไปอยู่ในดิวิชั่น 2 อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ด็อคเคอร์ตี้ พาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ได้ในฤดูกาล 1975/76 และมีผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการล้ม ลิเวอร์พูล ในนัดชิงเอฟเอ คัพ 2-1 เมื่อปี 1977

ผู้จัดการทีมแมนยู
  1. เดฟ เซ็กซ์ตัน (1977-1981)

เขาเคยเกือบพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 1979 หลังถูกนำไปก่อน 2-0 แต่ก็ทำสองประตูรวดในนาที 86 และ 88 ตีเสมอได้ แต่สุดท้ายก็โดนทีมปืนใหญ่ทำประตูชัยในนาทีที่ 89 ชวดแชมป์ไปแบบน่าเจ็บใจ แต่ภายในระยะเวลา 4 ปีที่เขาคุมทีม นอกจากการคว้ารองแชมป์ เอฟเอ คัพ แล้ว การได้รองแชมป์ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาลเดียวกัน

  1. รอน แอตกินสัน (1981-1986)

รอน แอตกินสัน เขาคนนี้ที่สามารถพาทีมแมนยูคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้สองสมัยในฤดูกาล 1982, 83, 84, 85 LOTTOSOD888 เว็บแทงบอลออนไลน์อันดับ 1 ที่ดีที่สุดในประเทศ

  1. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (1986-2013)

สำหรับเขาคนนี้ที่ได้อยู่ยาวนานและสร้างผลงานเยอะกว่าผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมด เขาพาไปคว้าถึง 38 โทรฟี่ ในช่วงเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ เรียกได้ว่า อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือคนที่พลิกโฉม และเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้อย่างแท้จริง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ฝากความสำเร็จกับสโมสรด้วยการพาทีมคว้าแชมป์มากที่สุดสำหรับผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมดที่เคยมีมา

  1. เดวิด มอยส์ (2013-14)

เขาคนนี้ที่เข้ามาด้วยแรงกดดัน ความคาดหวังหรือเหตุผลใด ๆ ก็ตามแต่งานผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูจะใหญ่เกินไปสำหรับเขา เพียงแค่ 1 ฤดูกาล มอยส์ ถูกปลดออกจากทีมและถูกตีตราว่าเป็นความล้มเหลวของ ยูไนเต็ด ครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งเลยทีเดียวจากผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมด

  1. ไรอัน กิ๊กส์ (2014)

เขาเป็นกุนซือรักษาการณ์อยู่เพียงแค่ 4 นัดเท่านั้นที่ถือว่าเป็นเวลาที่สั้นที่สุดของผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมด และทีมก็แต่งตั้ง หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามาทำหน้าที่แทน และ กิ๊กส์ ก็เป็นหนึ่งในทีมงานของกุนซือชาวฮอลแลนด์ ก่อนจะไปคุมทีมชาติเวลส์ ในภายหลัง

ผู้จัดการทีมแมนยู
  1. หลุยส์ ฟาน กัล (2014-2016)

ก่อนที่จะมารับงานคุมทีมเขาเป็นหนึ่งในกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากทีเดียวในโลกลูกหนัง เขาผ่านงานใหญ่ ๆ มา สำหรับผลงานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของเขาเป็นอีกครั้งที่เหล่า “เร้ดส์ อาร์มี่” ตั้งคำถามกับฟอร์มการเล่นของทีม และทำให้เขาเจอแรงกดดัน จนโดนปลดออกจากตำแหน่งในที่สุด

  1. โชเซ่ มูรินโญ่ (2016-2018)

กุนซือระดับท็อปเขามีความสำเร็จติดไม้ติดมือ อย่างไรก็ดีความสำเร็จที่ “เดอะ สเปเชี่ยล วัน” เผยว่าเขาภูมิใจที่สุดในการเป็นโค้ชของทีมปีศาจแดงคือ การพาทีมจบอันดับที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2017/18 แต่ต่อมาหลังจากเริ่มต้นฤดูกาล 2018–19 ด้วยชัยชนะเพียง 7 นัด จาก 17 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก

  1. โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (2018-2021)

เขาถูกแต่งตั้งเข้ามาเป็นกุนซือรักษาการณ์ แทนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่สวนทางออกไป ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมแบบถาวร และเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่สามารถพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับไปอยู่ในจุดที่ควรได้จากทีมผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมดในยุคนั้น

  1. ไมเคิ่ล คาร์ริค (2021)

เขาเป็นผู้จัดการทีมรักษาการณ์ที่ได้โชว์ผลงานการคุมทีม เพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น แต่ 3 นัดดังกล่าวกลับเป็นเกมที่ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากเป็นทั้งผู้เล่นและผู้ช่วยของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ คาร์ริคก็ได้ยุติเส้นทางการทำงานร่วมกับสโมสรเป็นเวลา 15 ปีอย่างเป็นทางการ โดยการลาออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดทางให้ ราล์ฟ รังนิก คุมทีมต่อ

  1. ราล์ฟ รังนิก (2021-2022)

เขาเป็นผู้จัดการทีมรักษาการณ์ทำผลงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างน่าผิดหวัง ด้วยการพาทีมจบได้เพียงอันดับ 6 ของตารางคะแนน ต่อมาหลังคุมทีมจนจบซีซั่น 2021/22 ราล์ฟ รังนิก ไม่สามารถพาทีมจบท็อปโฟร์ได้ จึงทำให้เขาเทสโมสร ด้วยการปฎิเสธการเป็นที่ปรึกษาของทีม และทิ้งทีมไปรับงานผู้จัดการทีมคุมทีมชาติออสเตรียแบบเต็มตัวแทน

  1. เอริก เทน ฮาก (2022-ปัจจุบัน)

เขาคนนี้คือผู้แบกรับความหวังคนล่าสุดที่แฟนบอลคาดหวังว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมด ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงและพาทีมกลับไปอยู่ในจุดที่ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยทำได้อีกครั้ง อีกไม่นานเกินรอ เมื่อฤดูกาล 2022/23 เริ่มต้น เรื่องราวของ เอริก เทน ฮาก กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะถูกขีดเขียนและบันทึกเอาไว้ บทสรุปจะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
สำหรับผู้จัดการทีมแมนยูทั้งหมดรวมคนปัจจุบันมี 26 ท่าน ในแต่ล่ะท่านเป็นผู้มาสร้างตำนานต่าง ๆ ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้เป็นตำนานได้อย่างยาวนาน ติดตามบทความเกี่ยวกับกีฬาและ สมัครแทงบอล Lottosod เว็บแทงบอลออนไลน์ที่ดีที่สุดของปี 2022 คาสิโนออนไลน์ หวยออนไลน์มากที่สุดในไทย ฝาก-ถอนออโต้ไม่มีขั้นต่ำได้เลย